ที่โรงเตี๊ยม

ที่โรงเตี๊ยมในคืนอันหนาวเย็นคืนหนึ่ง มีนักเดินทางสามคนมาขอเช่าห้องพักพร้อมกัน คนแรกเป็น นักบวชฮินดู คนที่สองเป็นอิหม่าม คนที่สามคือ บุญโดม ทนายความ

เจ้าของโรงเตี๊ยมแจ้งว่า ที่นั่นมีห้องพักอยู่เพียงห้องเดียว แต่มีเตียงอยู่แค่สองเตียงเท่านั้น ดังนั้นคน ทั้งสามต้องตกลงกันเองว่าสองคนไหนจะพักในห้องพัก ที่เหลือหนึ่งคนจำเป็นต้องไปนอนที่โรงนา นักบวชฮินดูยอมเสียสละโดยอาสาไปนอนในโรงนาเอง

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มีเสียงเคาะประตูห้องนอน อิหม่ามและบุญโดมทนายความมาเปิดประตู ที่แท้ก็ เป็นนักบวชฮินดูนั่นเอง

นักบวชฮินดู: ในโรงนามีวัวตัวหนึ่ง เราถือว่าวัวนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก เราไม่สามารถนอนอยู่ในโรงนา กับวัวได้หรอก

อิหม่ามบอกว่าเขาไม่มีป้ญหาที่จะนอนอยู่กับวัวจึงอาสาไปนอนในโร งนาแทน อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ปรากฎว่ามีเสียงเคาะประตูห้องอีก บุญโดมกับนักบวชฮินดูมาเปิดประตู อ้าวนั่นคืออิหม่าม

อิหม่าม : ในโรงนาไม่ใช่มีแต่วัว หากแต่มีหมูอยู่ตัวหนึ่งด้วย เรารังเกียจหมู และรู้สึกขยะแขยงมาก จึงไม่สามารถนอนในโรงนากับสิ่งที่น่าขยะแขยงอย่างนี้ได้หรอก

บุญโดมทนายความบอกว่า สำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวัวหรือเป็นหมูไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาเลย ความจริงแล้วเขาไม่อยากไปนอนในโรงนา แต่เพื่อเห็นแก่คนทั้งสองเขาจึงจำใจต้องไป ครึ่งชั่วโมง ผ่านไป ปรากฎว่ามีเสียงเคาะประตูห้องอีก ทั้งนักบวชฮินดูและอิหม่ามก็มาเปิดประตู พบว่า

ผู้มาเคาะประตูคือวัวหนึ่งตัว และหมูหนึ่งตัว ที่อยู่ในโรงนานั่นเอง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น