นักหนีภาษี

ที่ด่านชายแดนบ้านผักกาด ลุงบุญมีขี่จักรยานบรรทุกกระสอบสองใบจะผ่านด่านข้ามไปเขมร เจ้าหน้าที่ศุลกากรเรียก ลุงบุญมี เพื่อขอตรวจสิ่งของ

เจ้าหน้าที่ : ในกระสอบนั้นมีอะไร เทออกมาดูหน่อย

บุญมี : ในนั้นมีทราย

เจ้าหน้าที่ฯเทของจากกระสอบทั้งสองใบแล้ว พบว่าเป็นทรายดังที่ลุงบอกจริงๆ แม้จะพยายามคุ้ย เขี่ยทรายทั้งสองกองอย่างไรก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงตักทรายใส่กระสอบแล้วปล่อยให้ลุงข้ามแดนไป

วันรุ่งขึ้น ลุงบุญมีก็ขี่จักรยานบรรทุกกระสอบมาสองใบอีก เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจโดยเทของ ในกระสอบออกมา พบว่ามีแต่ทรายทั้งสองกระสอบ จึงตักทรายใส่กระสอบแล้วปล่อยให้ลุงบุญมี ข้ามด่านไปเขมร

ในวันต่อมาและต่อเนื่องกันเป็นเดือน ลุงบุญมีก็จะขี่จักรยานบรรทุกกระสอบสองใบผ่านด่านทุกวัน เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็จะเทของออกจากกระสอบทั้งสองใบมาตรวจทุกวัน เช่นเดียวกัน เพราะกลัวลุงแก ลักไก่ แต่ในที่สุดก็พบว่าของในกระสอบมีแต่ทรายเท่านั้น อย่างนี้ทุกครั้ง

เวลาผ่านไปหกเดือน ลุงบุญมีหายไป ไม่ขนกระสอบผ่านด่านดั่งที่เคยทำทุกวันอีกต่อไป วันหนึ่งเจ้า หน้าที่ศุลกากรไปพบลุงบุญมีที่ตลาดโดยบังเอิญ ลุงแกแต่งตัวภูมิฐานมีเครื่องทองหยองประดับกาย มากมาย จึงเดินเข้าไปทักทาย

เจ้าหน้าที่ : อ้าว ลุงบุญมี เดี๋ยวนี้ไม่ข้ามไปเขมรอีกแล้วหรือ รวยแล้วสิ ผมอยากจะบอกนะว่าลุงทำ พวกผมเหนื่อยน่าดูเลย การหนีภาษีของลุงนั้นแยบยลจริงๆนะ ลุงช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่า จริงๆแล้วลุงซ่อนของหนีภาษีอะไร แล้วซ่อนอยู่ที่ตรงไหน พวกเราจึงค้นหาไม่พบ ถ้าลุงบอกผม ผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร

บุญมี : ผมเอาจักรยานไปขายฝั่งเขมรครับ


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น